รูปสวยๆ


๑/๑๑/๒๕๕๓

น้องปุ้ยพาลุย Notebook จะซื้อต้องดูอะไรบ้างน๊าาา



สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อ Notebook (โน้ตบุ๊ก) เลือกซื้ออย่างไรให้คุ้มค่า
ทางทีมงานคงไม่สามารถจะไประบุได้ว่าคุณจะต้องซื้อเครื่องรุ่นนี้ ยี่ห้อนั้น ในราคาเท่านั้นเท่านี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับจิตใจและความต้องการ รวมทั้งความชื่นชอบของแต่ละบุคคลด้วยครับ เพราะในความเป็นจริงแล้วนั้น คุณเองต่างหากที่จะต้องเป็นผู้ที่ตัดสินใจในการเลือกซื้อ ทางทีมงานมีหน้าที่เพียง ในการนำเสนอข้อมูลให้เท่านั้น และข้อมูลต่างๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอต่อไปนี้นั้น ถือว่าเป็นประเด็นที่สำคัญๆ ที่ไม่ควรจะมองข้ามหรือพิจารณา ในการเลือกซื้อ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา " Notebook (โน้ตบุ๊ก) " เลยสักนิด และทางทีมงานก็อยากที่จะให้คุณๆ ทั้งหลายได้คิดอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ Notebook (โน้ตบุ๊ก) สักเครื่อง ไม่ว่าจะมีราคาเท่าไรก็ตาม เพราะสิ่งหนึ่งที่ต้องจดจำไว้อย่างก็คือเรื่องของการอัปเกรดนั้นเองครับ เพราะตัวที่คุณสามารถจะอัปเกรดได้นั้นก็จะ มีเพียงแค่การ เพิ่มแรม เพิ่มความจุฮาร์ดดิสก์ เปลี่ยนซีดีรอม แต่ไม่สามารถเปลี่ยนซีพียู หรือองค์ประกอบอื่นๆ อีกหลายอย่างได้ เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นเครื่องที่ได้ถูกออกแบบมา ให้สามารถที่จะเปลี่ยนซีพียูได้ แต่นั้นอาจจะต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย
โดยส่วนใหญ่แล้ว Notebook (โน้ตบุ๊ก) จะมีโครงสร้างและลักษณะที่คล้ายๆ กัน จะมีแตกต่างกันกตรงที่น้ำหนัก สเปกภายในเครื่อง วัสดุที่ใช้ทำตัวเครื่องและสีสัน รูปร่างหน้าตา ก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง ที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของ Notebook (โน้ตบุ๊ก) ของแต่ละยี่ห้อ ส่วนประกอบและโครงสร้างจะคล้ายคลึงกับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเดสก์ท็อป ทั่วๆ ไป คือมีทั้ง ซีพียู แรม ฮาร์ดดิสก์ ไดรฟ์ต่างๆ
"โปรเซสเซอร์" หรือ "ซีพียู" (CPU : Central Processing Unit)
หัวใจสำคัญที่ส่งผลโดยตรงกับความเร็วในการประมวลผลของ Notebook (โน้ตบุ๊ก) ก็คือ "ซีพียู" สำหรับ Notebook (โน้ตบุ๊ก) นี้นั้น จะมีซีพียูที่ผลิตมาใช้งานกับ Notebook (โน้ตบุ๊ก) หลักๆ อยู่ 3 ค่ายด้วยกัน คือ อินเทล (Intel), เอเอ็มดี (AMD) และทรานเมต้า (Transmeta) ซึ่งทั้งสามค่ายต่างก็ต่อสู้กันมาโดยตลอด แต่ค่ายที่ได้รับความนิยมและ ประสบผลสำเร็จมากที่สุดก็เห็นจะเป็นซีพียูจากค่ายของอินเทลผู้นี้นี่เอง ซีพียูที่ใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ Notebook (โน้ตบุ๊ก) นั้นจะมีด้วยกันหลายแบบ และหลาย ประเภท ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงแต่เฉพาะซีพียูที่มีขายในปัจจุบัน และเป็นซีพียูรุ่นที่หน้าสนใจของตลาด โดยจะเริ่มจากซีพียูของอินเทลก่อนเลย
ซีพียูอินเทลหลักๆ แล้วก็จะมีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น คือ เซลเลอรอน, เพนเทียมโฟร์ และเพนเทียมเอ็ม ซึ่งในแต่ละรุ่นก็ยังจะมีการแตกไลน์ออกไปอีก คือมีทั้งรุ่น ที่เป็นโมบาย (Mobile) และเป็นรุ่นธรรมดา แต่ ณ ปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิต Notebook (โน้ตบุ๊ก) จะเลือกใช้ซีพียูที่เป็นโมบายเสียเป็นส่วนใหญ่
Mobile Intel Celeron Processor
ในส่วนของซีพียูที่เป็นโมบายนั้น จะถูกแบ่งออกเป็น 3 รุ่นด้วยกัน ซึ่งในการแบ่งรุ่นนี้นั้น จะใช้การกินกระแสไฟ เป็นตัวบ่งบอก โดยจะมีในรุ่น Low Volt ซึ่งจะมีความเร็ว 866MHz, 733MHz ความเร็วบัส 133MHz FSB และ 650MHz ความเร็วบัส 100MHz FSB และรุ่น Ultra Low Volt จะมีความเร็ว 800MHz, 733MHz ความเร็วบัส 133MHz FSB และรุ่นความเร็ว 700MHz, 650MHz ความเร็วบัส 100MHz FSB นอกจาก

นั้นก็จะเป็นรุ่นธรรมดาซึ่งจะมีอยู่สองส่วนด้วยกันคือ รุ่นความเร็วบัส 133MHz ซึ่งจะมีความเร็ว 1.06GHz, 1.13GHz, 1.20GHz, 1.26GHz และ 1.33GHz ส่วนอีกรุ่นจะเป็นรุ่นความเร็วบัส 400MHz FSB ก็จะมีความเร็วตั้งแต่ 1.40GHz ถึง 2.50GHz โดยทั้งหมดนี้จะใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ 0.13 ไมครอน และมีขนาด L2 Cache 256KB กับ 128KB และมีชิปเซตที่สามารถรองรับการทำงานได้ดังนี้ 440ZX, 440MX, 815EM, 830MP, 830M, 830MG ซึ่งจะใช้หน่วยความจำแบบ SDRAM และ 852GM จะใช้หน่วยความจำแบบ DDR SDRAM
Intel Celerron Processor
ซีพียูอินเทลซลเลอรอนจะใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ 0.13 ไมครอน และมีความเร็วตั้งแต่ 2.20GHz ถึง 2.80 GHz ใช้ความเร็วบัส 400MHz FSB มีขนาด L2 Cache 128KB สนับสนุนการทำงานร่วมกับหน่วยความจำ แบบ DDR SDRAM ชิปเซตที่สามารถรองรับได้ก็จะมี 852GM, 852GME และ 852PM
Intel Celeron M Processor
อินเทลเซลเลอรอนเอ็มเป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดของตระกูลเซลเลอรอน และเป็นเจนเนอร์เรชันใหม่ของ ซีพียูเซลเลอรอน ด้วย ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่นคือ รุ่นธรรมดา (Standard Volt) มีความเร็ว 1.20GHz, 1.30GHz และ 1.40 GHz ส่วนอีกรุ่นก็จะเป็นรุ่น Ultra Low Volt มีความเร็ว 800MHz และ 900MHz ใช้เทคโนโลยี ในการ ผลิตที่ 0.13 ไมครอน มีขนาด L2 Cache 512KB มีความเร็วบัส 400MHz FSB ใช้งานกับชิปเซตตระกูล 855 และชิปเซต 852GM
Mobile Intel Pentium III Processor-M
สำหรับซีพียูอินเทลเพนเทียมทรีเอ็มรุ่นนี้นั้น ยังคงมีให้เห็นกันอยู่บ้าง แต่เริ่มลดลงแล้ว เพราะได้ถูกแทนที่ด้วย ซีพียูอินเทลเพนเทียมเอ็มที่เป็นเซนทริโน โดยซีพียูอินเทลเพนเทียมทรีเอ็มจะใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ 0.13 ไมครอน มีขนาด L2 Cache 512KB และจะแบ่งเป็นรุ่น Low Volt ได้แก่ความเร็ว 1GHz, 933MHz, 866MHz และ 800MHz ที่มีความเร็วบัส 133MHz FSB และความเร็ว 850MHz กับ 800A MHz ที่มีความเร็วบัส 100MHz FSB ส่วนในรุ่นประหยัดพลังงานอย่าง Ultra Low Volt จะมีความเร็วที่ 933 MHz, 866MHz และ 800MHz ความเร็วบัส 133MHz FSB และรุ่นความเร็ว 900MHz, 850MHz และ 800MHz ที่ความเร็วบัส 100MHz FSB ใช้งานกับชิปเซตอินเทลตระกูล 830 สนับสนุนการทำงานกับ หน่วยความจำ SDRAM ความเร็ว 133MHz
Mobile Intel Pentium4 Processor
ซีพียูตระกูลอินเทลเพนเทียมโฟร์ เป็นอีกซีรี่หนึ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยขนาด L2 Cache 512KB ความเร็วเร็วบัส 533MHz FSB ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ 0.13 ไมครอน มีความเร็วตั้งแต่ 2.40GHz, 2.66GHz, 2.80GHz และ 3.06GHz นอกจากนั้นก็ยังจะมีซีพียูที่รองรับเทคโนโลยี Hyper-Threading ตั้งแต่ความเร็ว 2.66GHz, 2.80GHz, 3.06GHz และ 3.20GHz ทำงานร่วมกับชิปเซต 852 GME และ 852PM ที่สนับสนุนการทำงานกับหน่วยความจำ DDR SDRAM รองรับความเร็ว 333/ 266 MHz
Mobile Intel Pentium4 Processor-M
อินเทลเพนเทียมโฟร์เอ็ม เป็นซีพียูที่ผลิตด้วยโทคโนโลยี 0.13 ไมครอน พร้อมด้วย Enchanced Intel SpeedStep Technology ที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยประหยัดพลังงานจากแบตเตอรี่ และเป็นการปรับ ความเร็วซีพียูในการใช้งานให้เหมาะสมกับแอพพลิเคชันนั้นๆ ใช้ความเร็วบัส 400MHz FSB โดยจะมีความ เร็วตั้งแต่ 1.40GHz ถึง 2.60GHz และจะใช้งานร่วมกับชิปเซตตระกูล Mobile Intel 845 สนับสนุนการ ทำงานกับหน่วยความจำ DDR SDRAM รองรับความเร็ว 200/266MHz
Intel Pentium M Processor (Banias\Dothan) สำหรับซีพียูตระกูลนี้จัดว่าเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน และประสิทธิภาพในการประหยัด พลังงานที่ดีที่ สุดอีกรุ่นหนึ่ง ที่เป็นรุ่นมาปฏิวัติวงการ Notebook (โน้ตบุ๊ก) ของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการรวบรวมเอาความสามารถ ในการ ใช้งานแบบไร้สายเข้าไว้ด้วยในตัว อีกทั้งยังเป็นการผสมผสานการทำงานที่ยอกเยี่ยม จึงถือว่าเป็นสุดยอดซีพียู แห่งยุคเลยก็ว่าได้ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 0.13 ไมครอน (130nm) มีขนาด L2 Cache ถึง 1MB ใช้ความ เร็วบัส 400MHz FSB ซึ่งจะมีทั้งรุ่น Standard, Low Volt และ Ultra Low Volt โดยในรุ่นธรรมดา (Standard) จะมีความเร็ว 1.30GHz, 1.40GHz, 1.50GHz, 1.60GHz และ 1.70GHz ส่วนในรุ่น Low Volt จะมีความเร็ว 1.10GHz, 1.20GHz และ 1.30GHz และส่วนในรุ่น Ultra Low Volt จะมีความเร็ว 900MHz, 1GHz และ 1.10GHz ใช้งานร่วมกับชิปเซตอินเทล 855GM, 855PM และ 855GME สนับสนุนการทำงานร่วมกับหน่วยความจำ DDR SDRAM สามารถที่จะรองรับหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 2GB และล่าสุดเพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา กับเจนเนอร์เรชันใหม่ของซีพียูอินเทล "เซนทริโน" โมบายเทคโนโลยี โค้ดเนม Dothan ที่ใช้สถาปัตยกรรม 90nm ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 0.13 ไมครอน กับ L2 Cache ขนาดมหึมาถึง 2MB (2048KB) ใช้ความเร็วบัส 400MHz FSB ซึ่งจะมีความเร็ว ตั้งแต่ 1.70GHz, 1.80GHz และ 2GHz ใช้งานร่วมกับชิปเซตอินเทล 855GM, 855PM และ 855GME สนับสนุนการทำงานร่วมกับหน่วยความจำ DDR SDRAM สามารถที่จะรองรับหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 2GB

ความเร็วในการทำงาน
ถ้ามาว่ากันถึงเรื่องของเร็ว ก็ต้องเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นยิ่งนักครับ เพราะความเร็วของเครื่องแบบเดสก์ท็อปยิ่งมีความเร็วมากขึ้นเท่าไร ก็จะส่งผลให้เครื่อง คอมพิวเตอร์แบบ " Notebook (โน้ตบุ๊ก) " เร็วขึ้นตามไปด้วย และในปัจจุบันมันก็มีความเร็วใกล้ระดับ 3GHz เข้าไปทุกทีแล้ว ซึ่งล่าสุดนั้นมีความเร็วอยู่ที่ระดับ 2.8GHz ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นซีพียูจากอินเทลเป็นแน่แท้ ซึ่งในบ้านเราก็ค่อนข้างที่จะหาซื้อได้ยากสักหน่อย แต่ส่วนหนึ่งที่ได้กลับมานั้นก็คือเรื่องของประสิทธิภาพที่ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และก็สามารถที่จะทำงานได้เท่าๆ กับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเดสก์ท็อปอย่างสบายๆ เลยทีเดียว และระดับความเร็วของซีพียูก็จะ เป็นส่วน หนึ่งที่จะเป็นตัวกำหนดราคาของ Notebook (โน้ตบุ๊ก) รุ่นนั้นๆ ด้วย และอีกตัวหนึ่งที่จะมาเป็นตัวกำหนดก็คือในส่วนของออปชันต่างๆ ที่ Notebook (โน้ตบุ๊ก) รุ่นนั้นๆ จะพึงมีมาให้ครับ ถ้ามีทุนทรัพย์ที่เพียงพอและพอเพียงก็น่าจะมองๆ ไปที่ระดับความเร็วที่ 2GHz ไปเลยก็น่าที่จะเป็นเรื่องที่ดีอยู่มิใช่น้อยเลยทีเดียวเชียวครับ แต่ถ้าทุนน้อยก็ ไม่เป็นไรครับ แต่อย่างน้อยก็ไม่ควรจะต่ำกว่า 1.6GHz นะครับ ซึ่งโดยรวมๆ แล้วนั้นก็จะขึ้นอยู่กับลักษณะของการนำไปใช้งานด้วย

เรื่องของหน่วยความจำ

Notebook (โน้ตบุ๊ก) ในยุคปัจจุบันได้ถูกพัฒนาขีดความสามารถให้รองรับและสนับสนุนการอัปเกรดได้พอสมควร ต่างกับ Notebook (โน้ตบุ๊ก) ยุคเก่า ที่กว่าจะเข้าไปทำการเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนตัวหน่วยความจำนั้น จะทำได้ค่อนข้างยุ่งยากและลำบา รวมทั้งจะติดกับเรื่องของเงื่อนไขในการรับประกัน แต่ในปัจจุบันปัญหาตรงนั้นได้หมดสินไป แล้ว ซึ่งในสมัยนี้ถ้าคุณต้องการจะเพิ่มเติมในส่วนของหน่วยความจำก็สามารถที่จะทำได้ง่ายดายกว่าแต่ก่อนมาก เพียงแต่คุณต้องดูก่อนว่า Notebook (โน้ตบุ๊ก) รุ่นนั้นๆ มีจำนวนของช่องสำหรับเสียบหน่วยความจำมาให้ทั้งหมดจำนวนกี่ช่อง และในแต่ละช่องสามารถที่จะรองรับขนาดของหน่วยความจำได้มากที่สุดเท่าไร ในตอนนี้ส่วนใหญ่แล้ว Notebook (โน้ตบุ๊ก) จะติดตั้งหน่วยความจำมาให้อย่างน้อยก็ 128MB ซึ่งในบางรุ่นบางยี่ห้อก็จะให้มามากถึง 512MB กันเลยทีเดียว แต่ก็แน่นอน ว่าราคาค่าตัวของรุ่นนั้นๆ ก็จะสูงตามไปด้วย และในส่วนของตัวหน่วยความจำก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะ Notebook (โน้ตบุ๊ก) ในรุ่นที่ไม่มีกราฟิกแยกออกมาต่างหาก จะต้องมีการแชร์หน่วยความจำหลักเพื่อไปใช้งานส่วนหนึ่งด้วย เพื่อมิให้ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบนั้นด้อยลงไปมากนัก ก็ควรที่จะเล็งๆ ไปที่ระดับ 256MB ก็จะดีอยู่มากๆ เลยทีเดียว และสำหรับในรุ่นที่มีกราฟิกชิปต่างหากนั้น มีให้เพียง 128MB ก็เพียงพอแล้วละครับ เพราะคุณไม่ต้องไปแชร์ให้เสีย อารมณ์

จอภาพ
วิวัฒนาการของจอภาพแบบแอลซีดีได้ถูกพัฒนาไปมากกว่าแต่ก่อน จึงทำให้เราได้เห็นคุณภาพของแอลซีดีที่มีมุมมองได้ในทุกๆ ด้าน ในการเลือกนั้น คุณควรจะมองหา Notebook (โน้ตบุ๊ก) ที่มีจอภาพเป็นแบบ Active Matrix Display ซึ่งด้วยเทคโนโลยีที่ว่านี้จะทำให้ได้ภาพที่คมชัดและสว่างกว่าแบบ Passive Matrix และก็อีกเช่นเคยครับ ราคาของมันก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย แต่จะว่าไปแล้วนั้น มันเป็นส่วนหนึ่งของ Notebook (โน้ตบุ๊ก) ที่มีความเปราะบางและแพงที่สุดเลยทีเดียว ดังนั้นจึงต้องจำไว้ว่า คุณไม่ควรที่จะจับหน้าจอของคุณหรือของใครเลย ถ้าต้องการที่จะทำความสะอาดมันแล้วล่ะก็ เพียงเช็ดเบาๆ ด้วยผ้าที่สะอาดและนุ่ม และ ก็ไม่ควรใช้ของเหลวใดๆ เช็ดเลย ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาทำความสะอาดก็ตามที ผู้ผลิตบางรายได้พัฒนาระบบ Passive Matrix แล้ว เพื่อไม่ให้ราคาของ Notebook (โน้ตบุ๊ก) นั้นสูงจนเกินไป จอแบบ Passive Matrix ที่ได้ถูกพัฒนาแล้วหรือเป็นจอแอลซีดีแบบ HPA (High Performance Addressing) จะสว่างกว่า และจะ แสดงผลได้ละเอียดกว่าจอแบบ Passive Matrix แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทางทีมงานก็ขอแนะนำให้คุณๆ ได้เลือกใช้จอภาพแบบ Active Matrix Display จะดีกว่า เพื่อความคมชัดในทุกมุมมองครับ ส่วนในเรื่องขนาดของจอภาพนั้น แน่นอนว่าจอภาพยิ่งใหญ่เท่าไร ราคาของมันก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น Notebook (โน้ตบุ๊ก) บางยี่ห้อ ทำสเปคออกมาทุกอย่างเหมือนกันหมด แต่จะทำออกมาสองรุ่นโดยจะมีความต่างกันที่ขนาดของจอภาพ ถ้าจะให้เลือกขนาดของจอภาพก็น่าจะดูที่ระดับขนาด 14" เพราะจะให้ความสบายกว่าจอขนาดเล็ก แต่ถ้าต้องการความยิ่งใหญ่ ก็ต้องมองๆ ไปที่ระดับ 17" ซึ่งคุณก็จะต้องจ่ายแพงกว่าตามไปด้วย

อุปกรณ์สื่อสารข้อมูล
อุปกรณ์ในการสื่อสารข้อมูลของเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ " Notebook (โน้ตบุ๊ก) " ถือว่าเป็นมาตรฐานเลยก็ได้ครับสำหรับอุปกรณ์พวกนี้ ไม่ว่าจะเป็น Modem หรือว่า LAN เพราะถือว่าการติดตั้งมาให้ด้วยนั้นเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและดีที่สุด เพราะถ้าจะต้องไปซื้อหามาเพิ่มเติม ก็จะต้องลงทุนด้วยราคานับพันบาท ซึ่งจะ ต้องมาเสียบเข้ากับช่อง PCMCIA และ Notebook (โน้ตบุ๊ก) รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันนั้น ก็ล้วนแล้วแต่จะติดตั้งมาให้แล้วแทบทั้งนั้น อีกทั้งในบางรุ่นก็จะเป็นแบบ Wireless LAN เสียด้วยซ้ำไปครับ ในการเลือกดูนั้นก็คงไม่มีอะไรมาก เพียงแค่ดูช่องเสียบว่ามันอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมหรือไม่ และเมื่อเสียบสายเข้าไปแล้วนั้น มันจะ ต้องไม่หลุดกันง่ายๆ เพราะมิเช่นนั้นแล้วการสื่อสารจะต้องไม่ราบลื่นและจะทำให้เกิดอาการเสียอารมณ์อย่างที่ไม่น่าจะเกิด และในส่วนของ LAN นั้นมาตรฐาน ของมันก็ควรจะอยู่ที่ 10/100Base แต่สำหรับบางท่านก็อาจจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ หรือบางท่านก็อาจจะซื้อหามา ติดตั้งเพิ่มเติมในภายหลังด้วยตนเอง มากกว่า คุณก็ลองถามตัวคุณเองดูซิว่า คุณต้องการที่จะใช้มันหรือเปล่า หรือว่าต้องการใช้งานในแบบใด
ที่มา
www.buycoms.com

Mulan : มู่หลาน อีก 1 วีรสตรีบนโลกใบนี้


ดูภาพประกอบเพิ่มเติมที่พี่ tonson โพสไว้
http://img.waketracker.com/out.php/t33689_thumbs20100111051944.jpg
Mulan : มู่หลาน

ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องมู่หลาน สร้างมาจากการนำเรื่องราวที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์จีนของวีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่ ฮัวมู่หลานนำมาถ่ายทอดเป็นการ์ตูนที่มีเนื้อหาและรูปการ์ตูนที่สวยงามน่าสนใจ โดยทางวอลท์ดิสนีย์ได้เพิ่มบทบาทความเป็นการ์ตูนมากยิ่งขึ้น โดยสร้างตัวละครสมมติขึ้นเป็นมังกรประจำตระกูลของบ้านฮัวที่มีชื่อว่ามูชู ซึ่งเป็นตัวละครที่คอยสร้างเสียงหัวเราะจากผู้ตนและตัวมู่หลานได้

เรื่องราวของมู่หลานเริ่มต้นขึ้น เมื่อสมัยที่จักรพรรดิวังเฉินเสด็จขึ้นครองราชย์ สมัยนั้นกองกำลังทหารเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในประเทศจีน ตอนนั้นกองกำลังทหารของจีนจำเป็นต้องการสร้างกำลังทหารเพิ่มขึ้น เนื่องจากหวั่นเกรงการก่อกบฎและการช่วงชิงบัลลังก์ของต้าอี้ ทางการจึงทำการเกณฑ์ครอบครัวชาวจีนทุกคน บ้านไหนมีผู้ชายต้องส่งเข้ามาฝึกเป็นทหารในกองทัพ มู่หลานหญิงสาวที่ทั้งสวยและฉลาด ท่าทางคล่องแคล่วว่องไวเป็นลูกสาวคนเดียวในบ้านตระกูลฮัวซึ่งก็ต้องส่งตัวแทนไปรับราชการเป็นทหารเหมือนกัน แต่ในบ้านตระกูลฮัวของมู่หลานไม่มีผู้ชายมีเพียงพ่อของมู่หลานเท่านั้น ซึ่งมู่หลานคัดค้านและไม่ยอมให้พ่อรับสานส์จากจักรพรรดิเพราะเห็นว่าพ่อแก่มากแล้ว แต่ด้วยความรักชาติและจงรักภักดีต่อจักรพรรดิวังเฉิน พ่อจึงไม่ฟังคำคัดค้านของมู่หลานเตรียมชุดเกราะและดาบประจำตระกูลไว้ใส่เพื่อไปรายงานตัวที่เมืองหลวง แต่มู่หลานได้ทำการขโมยชุดเกราะและดาบของพ่อไปโดยทิ้งจดหมายไว้ว่าตนเองจะเป็นตัวแทนทหารแทนพ่อเอง เมื่อมาถึงกองทัพมู่หลานได้ปลอมตัวเป็นผู้ชายและใช้ชื่อว่า"ผิง"เข้าร่วมฝึกการรบพร้อมทหารผู้ชายอีกหลายคนโดยการฝึกของแม่ทัพลี ด้วยความที่มู่หลานเป็นคนอดทนสูงและมีความพยายาม ความสามารถของเธอจึงไม่ด้อยกว่าผู้ชายเลยซึ่งในกองทัพเธอได้สร้างผลงานในฝีมือไว้มากมาย คือ การปราบกบฎต้าอี้ได้และพาจักรพรรดิออกมาจากการคุมขังของต้าอี้ด้วยความสามารถของเธอเอง สุดท้ายแม่ทัพลีรู้ว่ามู่หลานเป็นผู้หญิงจึงโกรธที่มู่หลานมาหลอกตน แต่จักรพรรดิวังเฉินกลับพูดว่า"ดอกไม้งามแบบนี้เป็นดอกไม้ที่หายากนัก จะมีหญิงไหนที่งามและเก่งฉลาดได้อย่างนี้ เขาจึงๆได้คิดและขอเธอแต่งงาน

จัดทำโดย puinaka

๑๒/๑๔/๒๕๕๒

แด่เธอที่รัก



วันวาเลนไทน์ มาจากชื่อของนักบุญวาเลนไทน์ (St.Valentine) ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ใน สมัยกษัตริย์ Claudiusที่ 2 แห่งกรุงโรม ในสมัยนั้นกษัตริย์ Claudius ออกกฎห้าม ให้มีการแต่งงานในเมืองของพระองค์ เพราะกษัตริย์ทรงต้องการทำศึกสงครามทรง ต้องการให้ผู้ชายทุกคนไปเป็นทหาร พระองค์เชื่อว่าถ้าไม่มีการแต่งงานผู้ชายจะสน ใจกับการรบมากขึ้น

นักบุญวาเลนไทน์ขัดบทบัญญัติแห่งกฎหมายของกษัตริย์ ด้วยการเป็นบาทหลวง ในพิธีแต่งงานให้หนุ่มสาวที่ต้องการแต่งงานอย่างลับ ๆ และแล้ววันหนึ่งข่าวการทำ พิธีสมรสของนักบุญวาเลนไทน์ก็รู้ถึงหูของพระเจ้าClaudius พระองค์จึงทรงสั่งทหาร ไปจับเขาไปประหารชีวิต

ระหว่างอยู่ในคุกมีคู่แต่งงานที่ท่านเคยทำพิธีให้หลายคู่ลอบไปเยี่ยมเยียนท่าน อย่างสม่ำเสมอ และที่นั่นท่านยังได้รู้จักกับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้คุม เธอมักมาพูดคุยกับท่าน และบอกท่านเสมอ ๆ ว่า การกระทำของท่านถูกต้องแล้ว นักบุญวาเลนไทน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ในปี 296 A.D. ในคุกแห่งนั้น เอง ก่อนตายท่านได้ฝากโน๊ตสั้น ๆ ถึงเพื่อนของท่าน และลงท้ายว่า “Love from your Valentine

ในปี 496 A.D.โป๊ปGelasiusได้ยกย่องให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันวาเลนไทน์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงคุณความดี ความกล้าหาญ และความเสียสละของนักบุญ วาเลนไทน์ เราจึงมักถือเอาวันนี้เป็นวันแห่งความรัก ในระยะต่อมาวันวาเลนไทน์ ใช้แทนความรักของหนุ่มสาวเป็นส่วนใหญ่ โดยในวันนี้จะมีการส่งขนม (โดยเฉพาะ ช็อคโกแลต) ดอกไม้(ส่วนใหญ่จะดอกกุหลาบ) ให้กับคนที่รัก